On-page SEO เป็นกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาบนเว็บไซต์ เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเช่น Google เข้าใจและจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น บทความนี้จะอธิบายองค์ประกอบสำคัญ On-page คุณควรให้ความสำคัญ โดยครอบคลุมถึงคำแนะนำและแนวทางที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มจัดอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหา
เลือกใช้คำหลัก ปัจจัยสำคัญทำ On-page SEO คุณควรทำวิจัยคำหลัก Keyword Research เพื่อหาคำมีปริมาณการค้นหาสูง ส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ เมื่อได้คำหลักมาแล้ว คุณสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ ใช้คำหลักในหัวเรื่อง Title Tag หัวข้อควรคำหลักหลักที่ต้องการจัดอันดับ โดยวางคำหลักให้อยู่ใกล้จุดเริ่มต้นหัวเรื่องถ้าเป็นไปได้ ใช้คำหลักใน Meta Description บอกผู้ใช้ว่าเนื้อหาหน้าเว็บเกี่ยวกับอะไร คำหลักควรมีอยู่ใน Meta description อย่างเป็นธรรมชาติคำหลักใน URL สั้นกระชับ คำหลักหลักเพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหาของหน้าดียิ่งขึ้น
สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ
Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาคุณค่า ตอบสนองต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นเขียนเนื้อหาน่าสนใจและคุณภาพสำคัญแม้เนื้อหาสั้นๆ ก็สามารถทำ SEO ได้ดีแต่เนื้อหาอย่างเหมาะสม เช่น บทความ 1,000-2,500 คำ มักจะให้ข้อมูลครอบคลุมเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่า ความสดใหม่เนื้อหา อัปเดตบทเก่าๆ เพื่อสอดคล้องกับข้อมูลปัจจุบัน Google ชอบเนื้อหาที่อัปเดตและทันสมัย ใช้หัวข้อย่อย Heading Tags ใช้ H1, H2, H3 เพื่อแยกเนื้อหาเป็นส่วนๆ อย่างชัดเจนเพื่อช่วย Google เข้าใจโครงสร้างของหน้าเว็บ ใช้คำหลักตามธรรมชาติ กระจายคำหลักทั่วเนื้อหาอย่างธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใส่คำหลักมากเกินไป
ปรับปรุงความเร็วหน้าเว็บ Page Speed
โหลดหน้าเว็บมีผลต่อการจัดอันดับบน Google หากหน้าเว็บคุณโหลดช้า จะทำให้ผู้ใช้กดออกจากเว็บไซต์ไป Google ใช้ปัจจัยนี้ประเมินคุณภาพหน้าเว็บ ดังนั้นความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ โดยคุณสามารถทำตามวิธีเหล่านี้ ใช้บีบอัดไฟล์เพื่อลดขนาดไฟล์ เปิดใช้งานการแคช ใช้แคชเพื่อผู้ใช้สามารถโหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้นเข้าชมครั้งถัดไป เลือกโฮสต์ที่ประสิทธิภาพ ใช้เว็บโฮสติ้งคุณภาพสูงมีประสิทธิภาพประมวลผลและโหลดเว็บไซต์จะช่วยเว็บไซต์เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพที่ใช้บนเว็บไซต์ผลต่อความเร็วโหลด รวมถึง SEO ใช้ชื่อไฟล์เหมาะสม ชื่อไฟล์รูปภาพควรมีคำหลักเกี่ยวข้อง ใช้ Alt Text เป็นคำอธิบายรูปภาพช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่ารูปภาพเกี่ยวกับอะไร คุณควรใส่คำหลักใน Alt Text ด้วย บีบอัดรูปภาพช่วยลดขนาดไฟล์และเพิ่มความเร็วของหน้าเว็บ
ลิงก์ภายในเป็นอีกปัจจัยสำคัญ On-page สร้างลิงก์เชื่อมโยงภายในไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์คุณเองให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ ลิงก์ภายในช่วยเครื่องมือค้นหาค้นพบและจัดทำเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ง่ายขึ้น เพิ่มเวลาใช้งานของผู้ใช้ เชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันจะช่วยผู้ใช้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น
ประสิทธิภาพสำหรับมือถือ
เว็บไซต์ควรสามารถใช้งานได้ดีบนอุปกรณ์มือถือ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้มือถือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่าเดสก์ท็อป Responsive Design ใช้การออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถปรับขนาดตามหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อผู้ใช้สามารถเรียกดูเว็บไซต์ได้สะดวก ตรวจสอบโหลดบนมือถือ ตรวจสอบโหลดของหน้าเว็บบนอุปกรณ์มือถือโดยเฉพาะ เพราะ Google ความสำคัญกับประสิทธิภาพใช้งานบนมือถือมากขึ้น ประสิทธิภาพ Meta Tags เช่น Title Tag กับ Meta Description เป็นองค์ประกอบสำคัญใน On-page เพราะสิ่งแรกที่ผู้ใช้เห็นเมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหา Title Tag คำหลักและให้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาอย่างกระชับ ความยาวไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร Meta Description อธิบายเนื้อหาในหน้าเว็บอย่างกระชับและน่าสนใจ ความยาวไม่ควรเกิน 155-160 ตัวอักษร
รักษาคุณภาพลิงก์ขาออก
ลิงก์ขาออกไปยังเว็บไซต์มีคุณภาพสูงเป็นอีกปัจจัยช่วยปรับปรุง SEO อ้างอิงแหล่งข้อมูลเชื่อถือ ลิงก์ไปยังเว็บไซต์น่าเชื่อถือให้ Google มองว่าเนื้อหาคุณภาพและเชื่อถือ ใช้ลิงก์ในบริบทเหมาะสม วางลิงก์ที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาสัมพันธ์กันจะช่วยผู้ใช้ได้รับประโยชน์มากขึ้น
สรุป On-page ส่วนสำคัญเว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับที่ดีในผลการค้นหา เลือกใช้คำหลักถูกต้อง เนื้อหาที่มีคุณภาพปรับปรุงด้านเทคนิค เช่น ความเร็วเว็บไซต์ ออกแบบสำหรับมือถือ ใช้ลิงก์อย่างเหมาะสม จะช่วยโอกาสประสบความสำเร็จทำ SEO